24.8.53

โรคริดสีดวง



          คือการโป่งพองของหลอดเลือดดำบริเวณส่วนล่างสุดของไส้ตรงและช่องทวารหนัก และเมื่อมีกากอาหารหรืออุจจาระผ่านก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง อาจมีเลือดออก คันบริเวณทวารหนักหรือปวดขณะขับถ่าย ริดสีดวงทวารแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ

ริดสีดวงภายใน

          จะอยู่ภายในไส้ตรง ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้และมักจะไม่รู้สึกเจ็บปวด เนื่องจากมีเส้นประสาทมาเลี้ยงน้อย บางครั้งริดสีดวงภายในอาจยื่นออกมาด้านนอกซึ่งจะทำให้มองเห็นได้และจะมีอาการเจ็บปวด ริดสีดวงภายใน แบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ

1.ไม่มีก้อนยื่นออกมานอกทวารหนัก

2.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระและหดกลับเข้าไปได้เอง

3.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระแต่ไม่หดกลับเข้าไป ต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป

4.มีก้อนยื่นออกมาและไม่สามารถใช้มือดันเข้าไปได้

ริดสีดวงภายนอก

          จะอยู่บริเวณทวารหนัก มักจะมีอาการเจ็บปวด สามารถมองเห็นและรู้สึกได้

อาการ

1.ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ลักษณะจะเป็นดังนี้คือ จะถ่ายอุจจาระออกมาก่อน(ระหว่างถ่ายอาจจะเจ็บหรือไม่ก็ได้) จากนั้นจะมีเลือดสดๆ หยดออกมาตามหลังจากอุจจาระ เลือดจะเป็นเลือดสดจริงๆ มักไม่มีมูกเลือดปน

2.มีก้อนออกมาระหว่างถ่ายอุจจาระ ขณะที่เบ่งอุจจาระจะมีก้อนยื่นออกมาหรือมีก้อนออกมาตลอดเวลา ขึ้นกับระยะที่เป็น

3.เจ็บและคันบริเวณทวารหนัก ปกติริดสีดวงจะไม่เจ็บ จะเจ็บในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนเช่น เส้นเลือดอุดตัน(Thrombosis) หรือมีเนื้อเยื่อตาย(Necrosis)

สาเหตุ

1. กรรมพันธุ์

2. การตั้งครรภ์

3. การที่ต้องนั่งหรือยืนนานๆ

4. ป่วยเป็นโรคที่ทำให้เกิดความดันในช่องท้องสูง ตัวอย่างเช่น โรคตับเรื้อรัง, โรคก้อนเนื้อในช่องท้อง เป็นต้น

5. ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง

คำแนะนำ

1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเช่น ผักและผลไม้

2. ฝึกหัดการขับถ่ายให้เป็นเวลาหลีกเลี่ยงอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเดินบ่อยๆ

3. ดื่มน้ำให้มากพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว


                                                         กลับ