8.10.53

ได้อะไรจากถังที่แตกร้าว



ชายชาวจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่าเพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร

ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแตก ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ

และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล

จากลำธารกลับสู่บ้าน จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 2 ปี ที่คนตักน้ำสามารถตักน้ำกลับมาบ้านได้หนึ่งถังครึ่ง

ซึ่งแน่นอนว่าถังน้ำใบที่ไม่มีตำหนิจะรู้สึกภาคภูมิใจในผลงานเป็นอย่างยิ่ง

ในขณะเดียวกันถังน้ำที่มีรอยแตกก็รู้สึกอับอายต่อความบกพร่องของตัวเอง

มันรู้สึกโศกเศร้ากับการที่มันทำหน้าที่ได้เพียงครึ่งเดียวของจุดประสงค์ ที่มันถูกสร้างขึ้นมา

หลังจากเวลา 2 ปี ที่ถังน้ำที่มีรอยแตกมองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น

วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า

"ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะรอยแตกที่ด้านข้างของตัวข้า ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหล

ออกมาตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน"

คนตักน้ำตอบว่า

"เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบานอยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า

แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่งเพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่

ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงข้างทางเดินด้านของเจ้า

และทุกวันที่เราเดินกลับ ... เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น

เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวย ๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว

ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้"

คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น

อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจและกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้

สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น

และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง

มองโลกหลาย ๆ ด้าน เพราะคนเราไม่ได้มีแต่ข้อเสียเท่านั้น


                                                                                    กลับ


                             

เลื่อนตัวเองขึ้น แต่อย่าลดคนอื่นลง




อาจารย์คนหนึ่งชวนลูกศิษย์เดินไปตามชายหาด ช่วงหนึ่งของการสนทนา

อาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นลงไปบนผืนทราย เป็นเส้นคู่ขนาน ยาว 5 ฟุต และ 3 ฟุต

ตามลำดับ

อาจารย์กล่าวว่า " เธอลองทำให้เส้น 3 ฟุต ยาวกว่าเส้น 5 ฟุต ให้ดูหน่อยสิ "

ลูกศิษย์หยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจลบรอยเส้นที่ยาว 5 ฟุต นั้นให้สั้นลงจนเหลือเพียง 1 ฟุต

จึงทำให้เส้น 3 ฟุตโดดเด่นขึ้นมา

แล้วศิษย์ก็สบตาอาจารย์พลางขอความเห็นว่า " เช่นนี้ ใช้ได้หรือยังครับ "

อาจารย์เขกหัวศิษย์เบา ๆ แล้วบอกว่า

" คนที่คิดจะยกตนเองให้สูง ขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งนั้นไม่ใช่วิธีที่ดีถ้าเลือกใช้วิธีนี้

ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลวไม่พัฒนาทางที่ดีควรเลือกวิธีที่จะยกตัวเองขึ้น โดยไม่ไปลดคนอื่นลง "

แล้วอาจารย์ก็ขีดเส้น 2 เส้นให้เท่าเดิม คือ 3 ฟุต และ 5 ฟุต

แล้วอาจารย์ก็สาธิตให้ดู ด้วยการขีดเส้น 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุต แล้วกล่าวว่า

" จงอย่าคิดว่าคู่แข่งของเธอคือศัตรูแต่ให้คิดว่าเป็นครูของเธอ ที่เธอจะต้องพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่า "

เขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม หากไร้คู่แข่งแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า

ตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหนไม่มีอัปลักษณ์ก็ไม่รู้จักสวยงาม

นักสู้ที่ดีมักชื่นชมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข้ง เพราะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอจะทำให้ชัยชนะของเขาไม่ยั่งยืนยง

เมื่อได้พบกับคู่แข่งที่แกร่งและฉลาดล้ำก็ยิ่งทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น

คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยการฆ่าน้องฟ้องนายและขายเพื่อน ถึงแม้จะทำให้สำเร็จ

แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ปราศจากเกียรติคุณ ไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ

การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรมกับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่น

ได้ก้าวไปตามวิถีทางของเขาอย่างเสรีนั้นย่อมมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน

การเลื่อนตัวเองขึ้นพร้อมกับลดคนอื่นลง เธออาจจะชนะแต่ก็มีศัตรูเป็นของแถม

แต่การเลื่อนตัวเองขึ้นโดยไม่ลดคนอื่นลงเธออาจเป็นผู้ชนะพร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมาย

และหนึ่งในนั้นอาจเป็นคู่แข่งหรืออดีตศัตรูของเธอเอง ด้วยเป็นสังคมแห่งความสำเร็จบน

พื้นฐานของมิตรภาพโดยแท้



                                                           กลับ


           

กบฟุ้งซ่าน




กบฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด
พอพระกลับมาถึงวัดเพื่อฉันเช้ากบมันนึกในใจอยากเกิดเป็นพระ เป็นพระสบายดี
มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน เมื่อพระฉันเสร็จก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้น
ไปให้เด็กวัดกินต่อแล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็จอร่อย

ตอนนี้กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นเด็กวัดแล้วเพราะสบายกว่าพระ
มันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้ และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้
สบายกว่าเยอะเลย เมื่อเด็กวัดกินเสร็จก็โกยอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกิน
แล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกันล้างจาน

ถึงตอนนี้กบเปลี่ยนใจ! ! อยากเกิดเป็นหมาวัดแล้ว
เพราะไม่ต้องล้างจานเหมือนเด็กวัดสบายกว่า…..
พอหมาวัดกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัดคอยเห่าคนแปลกหน้า 
ฝูงแมลงวันก็บินมาตอมและกินอาหารต่อจากหมาวัด

ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจอีกแล้ว อยากเกิดเป็นแมลงวันเพราะสบายที่สุด
ไม่ต้องทำอะไรเลยหนำซ้ำ ยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย

ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆ อยู่นั้นพอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ
จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวันเข้าปากตัวเองโดยสัญชาตญาณ

ถึงตอนนี้ กบฟุ้งซ่านจึงบรรลุธรรมฉับพลัน ( Sudden knowledge )
คิดได้ว่า เฮ้อ ! เป็นตัวของเราเองนี่แหละ ดีที่สุดเเล้ว(The best to be yourself )
จงเชื่อมั่นในตัวเอง (  Be yourself ! ! )


                                                            กลับ


                     

10.9.53

อาชีพถูกโฉลกตามกรุ๊ปเลือด



งานที่เหมาะสมกับหนุ่มสาวกรุ๊ปเลือด A

          คนกรุ๊ป A เป็นคนทำอะไรสม่ำเสมอรอบคอบ จึงก้าวไปทีละก้าวอย่างช้าๆ อย่างมั่นคงและมั่นใจดังนั้นจึงต้องวางแผนต่างๆ ไว้ล่วงหน้าก่อนเพื่อกันให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด เรื่องทุกเรื่องจะวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วจึงคิดวางแผน รวมทั้งเหตุการณ์ข้างหน้าก็จะเตรียมวางแผนล่วงหน้า แม้เป็นงานที่ยากถึงลำบากก็จะไม่บ่นจะทำให้สำเร็จเพราะเป็นงานที่ตนรัก

          ข้อดีของคนกรุ๊ป A คือเป็นคนที่มั่นคงสม่ำเสมอไม่วอกแวกไม่โลดโผน ซึ่งจะแสดงออกมาให้เห็นในงานที่ทำจะก้าวย่างไปตามทางของตนเองอย่างเงียบๆ นี่เป็นลักษณะของคนกรุ๊ป A เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีสติปัญญา

          ลักษณะพิเศษของคนกรุ๊ป A คือจะทำอะไรตามระบบระเบียบเงื่อนไข อันดับแรกในการเลือกงานคือต้องเป็นงานที่มั่นคงเพราะงานเป็นสิ่งที่คนกรุ๊ป A จะแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นได้แต่การแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งในงานต่างๆนั้น มีผลกระทบต่อคนกรุ๊ป A ที่อ่อนไหวง่าย อาจทำให้ไม่สามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา คนกรุ๊ป A จะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของโรงเรียนหรือที่ทำงาน ดังนั้นตัวเองจะต้องจบจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเข้าทำงานที่บริษัทใหญ่ๆ และเมื่อได้รับคำชื่นชมจากคนอื่นๆก็จะพอใจ แต่ถ้าไม่ได้รับและไม่เป็นไปตามที่ตัวเองคาดหวังไว้นั้นก็จะรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง



งานที่เหมาะสมกับหนุ่มสาวกรุ๊ปเลือด B

          คนกรุ๊ป B จะเป็นคนที่จับจุดได้เก่ง ความที่ตัวเองเป็นคนเก่งแถมยังมีไอเดียอีกต่างหาก ชอบแสดงความคิดเห็นหรือออกความเห็นตามความคิดของตนเอง โดยไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น แต่เรื่องของตนเองกลับไม่สามารถจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ให้เรียบร้อยลงได้ เป็นคนมีไอเดียแต่ไม่เป็นผู้ตามที่ดีชอบที่จะเป็นผู้นำมากกว่า คนที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างคุณจะไม่ชอบกฏเกณฑ์หรือเรื่องอะไรที่น่าเบื่ออาชีพพนักงานบริษัทจึงไม่เหมาะกับคุณ คุณควรทำงานที่ค่อนข้างอิสระใช้ความสามารถที่ออกจากมันสมองให้เต็มที่

          งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะเป็นงานที่เหมาะสมกับคนอย่างคุณมากที่สุด อย่างไรก็ตามคุณเป็นคนที่มีนิสัยกล้าและชอบท้าทาย คุณจึงอยากทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ แม้เป็นงานที่ยากเกินไปสำหรับผู้หญิงแต่คุณก็ท้าทายอยากจะทำ เช่นนักบิน แต่ข้อเสียของคุณคือเป็นคนที่เบื่อง่ายทำอะไรได้ไม่นาน ดังนั้นคุณควรรีบเลือกตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดดีกว่าจะสามารถสำเร็จได้



งานที่เหมาะสมกับหนุ่มสาวกรุ๊ปเลือด AB

          คนกรุ๊ป AB เป็นคนชอบผูกมิตรรักสันติเข้ากับทุก ๆ คนได้ดี เกลียดเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่น ๆ ไม่ว่าทำงานที่ไหนคุณจะสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดี งานที่ต้องติดต่อประสานงานกับคนหลาย ๆฝ่ายจะเป็นงานที่เหมาะกับคุณที่สุด เช่นผู้จัดการ ที่ปรึกษา เลขานุการ เป็นต้น คุณจะได้ใช้ความสามรถของคุณเต็มที่ นอกจากนี้คนกรุ๊ป AB ยังเป็นคนรักสวยรักงาม หากคุณรู้จักทำให้เป็นประโยชน์ขึ้นมา เช่นเปิดเป็นร้านขายของเล็ก ๆ ขายของที่ทำขึ้นเอง

          คุณจะได้สนุกกับงานและยังได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ลักษณะพิเศษของคุณคือเป็นคนที่มีความสามารถมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องอะไรคุณจะสามารถทำได้ดีโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากจนคนอื่นรู้สึกอิจฉาคุณ คุณเป็นคนมีพรสวรรค์แต่คุณเป็นคนที่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เมื่อมีอุปสรรคซึ่งเป็นข้อเสียของคุณแถมยังขาดความเชื่อมั่นอีกด้วย งานที่ต้องใช้การตัดสินใจมาก ๆ จึงไม่เหมาะกับคุณ รวมทั้งงานที่ต้องมีการแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งกัน



งานที่เหมาะสมกับหนุ่มสาวกรุ๊ปเลือด O

          หากคนกรุ๊ป O ตั้งจุดหมายอะไรไว้สักอย่างจะพยายามต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ เพื่อก้าวไปให้ถึงจุดหมายนั้นให้ได้ ไม่ยอมที่จะพ่ายแพ้คนอื่นง่ายๆ ชอบที่จะเอาชนะใจตัวเองอีกด้วย จะถือคติที่ว่าหากชนะใจตัวเองก็เหมือนชนะคนอื่นไปแล้วครึ่งหนึ่ง หากมีคู่แข่งขันก็จะยิ่งต่อสู้อย่างสุดกำลัง ในทางกลับกับแม้ได้ทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีเงินเดือนสูง ๆ แต่หากเป็นงานที่ไม่ถนัดก็จะเลิกล้มอย่างง่ายดาย

          คุณเป็นคนก็มีพลังและทะนงตัว คุณจะไม่พอใจที่ต้องเป็นลูกน้องใคร ไม่ชอบการทำตามคำสั่งของเจ้านายคุณ ชอบที่จะทำตามความคิดของต้วเอง คุณไม่เหมาะที่จะต้องมาทำงานบริษัทงานที่คุณเป็นเจ้าของเองจะเหมาะกับคุณมากกว่าซึ่งคุณจะได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ สำหรับหญิงกรุ๊ป O ก็เช่นกัน

          งานเจ้าของกิจการบริษัทหรือร้านค้า จะทำให้คุณเป็นผู้นำของผู้อื่นได้ คนกรุ๊ป O ชอบให้คนอื่น ๆสนใจในตัวเอง เป็นคนมีความพยายามและหากเป็นนักกีฬจะเป็นคนที่มีน้ำใจนักกีฬา และจะเป็นหัวหน้าทีมที่น่ายกย่องเป็นแกนนำที่ดี ไม่ว่าจะทำอะไรคุณจะมีความพยายามมากกว่าคนอื่น 2 - 3เท่าเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย แต่ข้อที่คุณควรระวังคือการที่เป็นคนเชื่อมั้นในตนเองมากเกินไป และมักให้ผู้อื่นทำตามคุณเสมอซึ่งเป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง



                                                           กลับ



                

ทายนิสัยจากกรุ๊ปเลือด



A คนกรุ๊ปเลือดเอ ผู้ไม่ชอบทะเลาะกับใคร

          คนที่มีเลือดกรุ๊ป เอ นั้น เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง จึงไม่ค่อยโต้เถียง หรือแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับใคร เพราะเชื่ออยู่เสมอว่าความคิดของตนถูกต้องแล้ว จึงไม่ต้องไปขอความคิดเห็นจากใครอีก แต่ยังดีที่คนกรุ๊ปเลือด เอ ส่วนมากจะเป็นคนเอาใจเก่งเห็นใจและตามใจคนอื่นเสมอ ดังนั้นโอกาสที่จะพบว่าเขาไปทำให้ขุ่นข้องหมองใจนั้นจึงไม่ค่อยได้ปรากฏให้เห็นบ่อยนัก แต่คนกรุ๊ปเลือด เอ ก็มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่เป็นคนขาดความคิดริเริ่ม

          ซึ่งหากเป็นชายที่บังเอิญได้หญิงฉลาดทำงานเก่งมาเป็นคู่ครอง ฝ่ายหญิงจะรู้สึกผิดหวังในตัวเขาอยู่บ้าง แต่สำหรับชาวกรุ๊ปเลือด เอ ที่เป็นหญิงแล้ว ลักษณะเช่นเดียวกันนี้ก็อาจจะเป็นผลดีสำหรับเธอ เพราะทำให้เธอกลายเป็นแม่ศรีเรือน ถนัดในการดูแลบ้านช่อง ปรนนิบัติสามี อบรมบุตรหลาน เรียกว่า เพรียบพร้อมคุณสมบัติของความเป็นแม่บ้านนั่นแหละ

          แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งสำหรับหญิงเลือดกรุ๊ป เอ นั่นก็คือ ในเวลาที่หัวใจของเธอมีความรักนั้นเธอจะรักชนิดทุ่มเทให้หมดทั้งสี่ห้องหัวใจเลยทีเดียว แต่ถ้าเมื่อใดที่น้ำผึ้งเปลี่ยนรสจากหวานกลายเป็นขมเธอก็พร้อมที่จะสลัดคุณออกไปจากหัวใจ อย่างคนที่มีความเข้มแข็ง เพราะสำหรับเธอแล้วให้เจ็บปวดปางตายเสียยังจะดีกว่าต้องมางอนง้อขอให้ใครเมตตาสงสาร นอกจากเป็นคนมีอารมณ์รุนแรงแล้ว สตรีเลือดกรุ๊ป เอ ยังเป็นคนที่รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวชนิดสาวสวยสมัยใหม่อยู่เสมอ แถมยังมีรสนิยมดีซะด้วย คือสวยอย่างคนมีระดับว่างั้นเถอะ



B คนกรุ๊ปเลือด บี มีนิสัยร่าเริงเป็นสัญลักษณ์

          คนที่มีเลือดกรุ๊ป บี นั้น จะเป็นบุคคลที่พร้อมจะหัวเราะได้ทุกเวลา เพราะมีนิสัยร่าเริงรักอิสระเสรี ตามใจตัวเองไม่แคร์ต่อสายตาใคร ใครจะหมั่นไส้ ใครจะค้อนก็ช่าง ฉันพอใจเสียอย่างใครจะทำไมเพราะฉะนั้นคนกรุ๊ปเลือด บี จึงชอบทำงานประเภท "วันแมนโชว์" คือไม่นิยมเข้าหุ้นกับใคร ลักษณะนิสัยของคนกรุ๊ปเลือด บี นั้นสามารถจะเป็นศิลปิน นักประพันธ์ หรือผู้สื่อข่าวที่ประสบความสำเร็จได้ หรือหากจะทำงานในองค์การใหญ่โอกาสเป็นผู้บริหารก็มีมาก ทั้งนี้ก็เพราะเขาเป็นคนเด็ดเดี่ยว ใจกว้าง และกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างไม่หวั่นเกรงผู้ใด

          ผู้ชายในกรุ๊ปเลือด บี จะเป็นคนประเภทสังคมเก่ง มีเพื่อนหญิงเป็นโหล ๆ แต่อย่าคิดว่าเขาเป็นคนไม่จริงจังกับความรักล่ะ เขาจริงจังมากแต่เสียนิดเดียวคือเขาจะจริงจังไปหมดเสียทุกคน นี่สิถึงจะเป็นปัญหา

          ส่วนผู้หญิงที่มีเลือดกรุ๊ป บี นั้น ก็เก่งไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกันคือ หัวใจไม่เคยว่าง ชอบเข้าสังคม ไม่แคร์เสียงนกเสียงกา แต่ถ้าเธอลองปักใจรักใครเข้าสักคนละก็ ใจเธอจะแน่วแน่มั่นคงไม่มีวันเสื่อมคลายเชียวหล่ะ แต่แย่หน่อยตรงที่เธอเป็นคนชอบเพ้อฝัน รักความหรูหราฟู่ฟ่า ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของขนบธรรมเนียมประเพณีเท่าใดนัก แถมเป็นคนเอาอะไรก็จะเอาให้ได้โดยไม่สนใจว่าจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยอะไร เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่บางครั้งเจ้าหล่อนจะถึงขั้นขายเพื่อน หรือไม่ก็ขายตนเอง เพียงเพื่อยกตัวเองให้ไปถึงจุดที่ต้องการ



AB คนกรุ๊ปเลือด เอบี คนที่ไม่มีความแน่นอน

          คนที่มีกรุ๊ปเลือด เอบี เวลาจะตัดสินใจอะไรสักอย่างเขามักจะทำให้เราผิดหวังหรือไม่เข้าใจในตัวเขาอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เพราะคนเลือดกรุ๊ป เอบี นั้น เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว คิดมาก หรือไม่ก็คิดไกลจนคนอื่นตามไม่ทัน เป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดไม่อาจเดาใจได้ถูก คนกรุ๊ปเลือด เอบี เป็นคนแปลก เวลาที่ประสบความสำเร็จ ขาจะผยองลำพองโอ้อวดความสามารถของตนไปทั่ว แต่ถ้าพบกับความผิดหวังแม้เพียงน้อยนิด เขาก็จะกลับกลายเป็นคนละคนปิดประตูลั่นกุญแจตีอกชกหัวอยู่คนเดียว แม้ใครจะปลอบใยนก็ไม่ยอมคลายความเศร้าโศก ซึ่งนิสัยประหลาดแบบนี้แม้แต่เจ้าตัวของคนกรุ๊ปเลือด เอบี เองก็ให้คำอธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดกันแน่ และเพราะความไม่เข้าใจตัวเองนี่แหละที่ทำให้บางครั้งก็เกิดปัญหาเช่น เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือความคิดของตนเองได้

          แต่จะอย่างไรก็ตามคนเลือดกรุ๊ป เอบี ก็เป็นคนมีใจเมตตาเห็นใจในความทุกข์ของผู้อื่นเสมอ และยินดีเสนอตัวเข้าช่วยแก้ปัญหาให้ แต่การช่วยเหลือของเขานั้นออกจะน่ากลุ้มอยู่สักหน่อย คือเขาจะถือความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ สมมติตัวเป็นเจ้าทุกข์หรือเจ้าของปัญหาเสียเอง เรียกว่าถ้าจะให้ช่วยก็ยินดีแต่ต้องช่วยด้วยวีธีของฉันนะ ในด้านอารมณ์นั้นคนเลือดกรุ๊ป เอบี จัดว่าเป็นบุคคลประเภทอารมณ์รุนแรง รักใครก็รักสุดขั้วหัวใจ เกลียดใครก็เกลียดเข้ากระดูกดำไปเลย แต่ถึงกระนั้นคนกรุ๊ปเลือด เอบี ก็มีความเป็นอัจฉริยะอยู่ไม่น้อย เพราะเขามีสมองที่ปราดเปรื่องสามารถประดิษฐ์คิดค้นสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่จะนำชื่อเสียงมาสู่เขาและวงศ์ตระกูลได้ แต่คนเลือดกรุ๊ป เอบี มักไม่ประสบความสำเร็จในการขอร้องใคร กล่าวคือถ้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือสักสิบครั้ง จะถูกปฎิเสธเสียเก้าครั้ง ทั้งนี้อาจจะเพราะคนอื่นเขาเข็ดขยาดในความไม่แน่นอนของแก ก็เลยขี้เกียจพาตัวเข้าไปข้องแวะด้วย ส่วนในด้านของความรักนั้นเนื่องจากคนกรุ๊ปเลือด เอบี ไม่ค่อยมีความจริงใจต่อเพศตรงข้ามเท่าใดนัก ความรักจึงไม่ค่อยสมหวัง



O คนกรุ๊ปเลือด โอ บุคคลผู้มีความสุขุมเยือกเย็น

          คนกรุ๊ปเลือด โอ ก็คล้ายนิสัยของผู้ชายทั่ว ๆ ไปนั่นแหละคือมีความสุขุมรอบคอบ ตัดสินใจด้วยเหตุผล เชื่อมั่นสมองมากกว่าหัวใจ ไม่ชอบเพ้อฝัน และค่อนข้างไปทางวัตถุนิยมหน่อย ๆ ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ป โอ จึงมักเป็นบุคคลที่มีงานทำเป็นหลักเป็นฐาน แถมหน้าที่การงาน ก็มักจะดีเป็นพิเศษซะด้วย เช่น เป็นทนายความ เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี หรืออะไรก็ตามที่มีความมั่นคงมาก ๆ โดยปกติแล้วคนกรุ๊ปเลือด โอ เป็นคนไม่ค่อยมีจินตนาการเท่าใดนัก ความคิดความอ่านตลอดจนการกระทำของพวกเขาจะตั้งอยู่บนรากฐานของความจริงเสมอ คือถ้าตาไม่ได้เห็นมือไม่ได้จับละก็ อย่าหวังว่าเขาจะยอมเชื่อ และคงเพราะเหตุนี้กระมังพวกเขาจึงสามารถสร้างครอบครัวได้เป็นปึกแผ่น ไม่เหลวเป็นน้ำ เหมือนพวกชอบฝันกลางแดด แม้ว่าจะเป็นคนเค็มนิด ๆ ก็เถอะ แต่คนกรุ๊ปเลือด โอ ก็มีนิสัยโอบอ้อมอารีรักเพื่อนพ้อง เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี เป็นกำลังสำคัญของหน่วยงานและเป็นที่รักใคร่โปรดปรานของเจ้านาย

          ส่วนหญิงที่มีเลือดกรุ๊ป โอ นั้น ก็เป็นคนที่จริงจังต่อชีวิตและความรัก ยินดีต่อการได้เป็นภรรยาและแม่เพราะเธอมีความคิดที่จะอุทิศร่างกายและวิญญาณเพื่อคนที่เธอรักอยู่แล้ว เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อย่าเข้าใจผิด คิดว่าผู้หญิงกรุ๊ปเลือด โอ จะใจง่ายมอบกายให้ใครเชยชมง่าย ๆ ตรงกันข้าม เธอเป็นคนรักนวลสงวนตัวจนบางครั้งถูกหาว่าโบราณคร่ำครึด้วยซ้ำ แต่ถ้าชายที่มารักเธอนั้นมีความเข้าใจและหัวเก่าพอ ๆ กับเธอละก็ เขาจะเป็นคนที่โชคดีทีเดียวล่ะที่ได้หญิงที่มีความรักความจริงใจอย่างเธอไปเป็นคู่ครอง





                                                         กลับ


 

1.9.53

ภาพพุทธประวัติ




 
                                                           กลับ


              

24.8.53

ทายนิสัยจากเครื่องดื่ม



คุณชอบดื่มเครื่องดื่มอะไรมากที่สุดคะ ลองสังเกตตัวเองและคนใกล้ชิดดูแล้วทายนิสัยกันดูค่ะ

น้ำหวาน   คนที่ชอบดื่มน้ำหวานมักเป็นคนรักสงบ ชอบทำงานที่มีความมั่นคง มีความมานะพยายามสูง ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นคนมองโลกในแง่ดี

น้ำอัดลม   แสดงว่าเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ชอบการบังคับและกฏเกณฑ์ ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น แต่ก็สนใจธรรมะสนใจเรื่องแปลกใหม่และชอบการผจญภัย

น้ำผลไม้   มักเป็นคนที่มีความขยันขันแข็ง มีความสุขมากกับการทำงานชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ค่อนข้างเจ้าระเบียบและจู้จี้จุกจิกให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

กาแฟ   คนที่เป็นคอกาแฟมักเป็นคนที่มีความคาดหวังในชีวิตสูง และมีความใจเย็น ที่จะรอสิ่งที่หวัง ต้องการความมั่นคงทางการเงิน เป็นคนเจ้าระเบียบ จริงจัง และตรงไปตรงมา

น้ำชา   มักเป็นคนที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยนและชอบเอาอกเอาใจคนอื่น เข้ากับคนง่าย ปรับตัวเก่ง ไม่ชอบความขัดแย้ง มักลังเลในการตัดสินใจ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และยุติธรรม

ไวน์   เป็นคนที่มีกฏเกณฑ์ในชีวิต ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีมาก และยึดมั่นในความถูกต้อง รู้จักกาละเทศะ เข้าสังคมเก่ง แต่ค่อนข้างเป็นคนอนุรักษ์นิยม

เบียร์   เป็นคนมีชีวิตชีวา กล้าหาญ รักการผจญภัย แต่เป็นคนใจร้อนไม่ค่อยรอบคอบ เปลี่ยนใจง่าย แต่ก็เป็นตัวของตัวเอง มีความเป็นอิสระสูงและชอบการแสดงออก

ดื่มเหล้า   คนที่ชอบดื่มเหล้าทุกชนิด เช่น บรั่นดี วิสกี้ แม่โขง มักเป็นคนที่รักความสนุกสนาน ใจกว้าง แต่เป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ บุคลิกดูเข้มแข็ง แต่จิตใจอ่อนแอ


                                                         กลับ


         

การเก็บเงินบอกนิสัย



วิธีเก็บเงินสดไว้จ่ายอย่างไรบอกอุปนิสัยใจคอคนเราได้เช่นกัน ลองไปดูกันเลย

ซ่อนเร้น

          ถ้าคุณซ่อนเงินไว้ในเข็มขัด ในซอกลับของกระเป๋าเงิน หรือกระเป๋าถือแสดงว่าคุณเป็นคนระมัดระวังมาก พิถีพิถันพิจารณาตัดสินใจอะไรรอบคอบ ควบคุมตัวเองได้อย่างมีระเบียบวินัย เวลานัดกับใครไม่เคยล่าช้าหรือผิดเวลา


แยกกันเป็นระเบียบ

          ถ้าคุณจัดธนบัตรแยกตามค่าเงินเป็นระเบียบเรียบร้อยใส่กระเป๋าสตางค์ และแยกเหรียญไว้อีกทางหนึ่งเพื่อใช้จ่ายย่อย คุณเป็นคนที่มีเหตุมีผลรู้จักความพอดี ไม่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาเท่าไหร่ ใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่าเงินทอง


มัดเป็นปึก

          คุณชอบพกเงินสดมัดเป็นปึกใหญ่แล้วดึงออกมาใช้ทีละใบ แสดงว่าคุณเป็นคนที่มีจิตใจไม่เคยทุกข์ร้อนอะไร รักชีวิตและมีอารมณ์ขันมาก มีความกระตือรือร้นอย่างสูง และชอบผจญภัยใหม่ๆ แปลกๆ โดยไม่หวั่นกลัวแต่อย่างไร


ใช้คลิปเหน็บ

          ถ้าคุณใช้คลิปเปอร์หรือที่เหน็บธนบัตรไว้ เวลาใช้จ่ายก็ดึงออกมา บ่งบอกว่าคุณเป็นคนรักครอบครัวมาก ไม่ชอบการเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงอะไรช้าๆ ชอบวิถีชีวิตเก่าตามขนบธรรมเนียมประเพณี


ทิ้งเกลื่อนกลาด

          หากคุณเก็บเงินสดธนบัตรไว้ไม่เป็นที่เป็นทาง ขึ้นอยู่กับเอาไว้หยิบฉวยจ่ายสะดวกเมื่อไร เช่นใส่ในกระเป๋าเงินหลายใบ ทิ้งไว้บนโต๊ะ บนเคาน์เตอร์ เป็นต้น สะท้อนบุคลิกของคุณออกมาว่าไม่ยึดถืออะไรเป็นกฎเกณฑ์ ชอบชีวิตง่ายๆ ไม่ค่อยอีนังขังขอบกับการใช้จ่ายเงิน บางทีทิ้งเงินไว้อย่างนี้จนลืมไปเมื่อจะใช้จ่ายถึงนึกขึ้นได้ จึงทำให้ต้องค้นหา จึงทำให้คุณเป็นคนเสาะแสวงหาอะไรได้รวดเร็ว และทำอะไรง่ายๆ ไม่จริงจังซีเรียสนัก


ชอบใส่เหรียญดังกุ๊งกิ๊ง

          ถ้าหากคุณชอบพกเหรียญมากๆไว้ในกระเป๋า แสดงว่าคุณเป็นคนมานะพยายามอดทนด้วยพลังงานสูง มักจะมีโครงการทำอะไรมากมาย ชอบชีวิตสนุกสนานหัวเราะรวนเป็นประจำ ไม่เคยมีจิตใจอิจฉาริษยาใคร และจิตใจบริสุทธิ์เหมือนกับเด็กๆ


ชอบโชว์

          ถ้าคุณชอบพกเงินสด มัดธนบัตรเป็นใหญ่แต่ชอบควักมาโชว์ให้คนเห็นเป็นประจำ แล้วมักเอาแบงก์ราคามากไว้บน บ่งบอกว่าคุณเป็นคนเปิดเผย ชอบแสดงความรู้สึก และไม่สนใจว่าจะเป็นจุดเด่นในสายตาคน มีทรรศนะทางการเมืองที่รุนแรง


                                                         กลับ


 

สตรีวัยทอง



          สตรีวัยหมดประจำเดือนหรือวัยหมดระดู คือสตรีในวัยที่มีการสิ้นสุดของการมีประจำเดือนอย่างถาวร เนื่องจากรังไข่หยุดทำงาน มีสาเหตุมากจากการที่จำนวนไข่ใบเล็กๆ ในรังไข่มีปริมาณลดลง ซึ่งมีผลทำให้การสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง จนหยุดการสร้างไปในที่สุด

          วัยทองเป็นระยะซึ่งสตรีส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว หน้าที่การงาน และฐานะความเป็นอยู่ โดยเฉลี่ยสตรีไทยเริ่มเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดระดู โดยธรรมชาติเมื่ออายุประมาณ 50 ปี ในกรณีที่หมดระดูเมื่ออายุน้อยกว่า 40 ปี เรียกว่าหมดระดูก่อนเวลาอันควร ซึ่งจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ มากขึ้น เช่นเดียวกับสตรีที่หมดระดูจากการผ่าตัดรังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง อายุขัยเฉลี่ยของสตรีไทยประมาณ 71 ปี ดังนั้นช่วงเวลาที่สตรีต้องอยู่ในสภาวะวัยหมดระดูนั้น มีประมาณ 1 ใน 3 ของช่วงชีวิตทั้งหมดของสตรี ซึ่งเป็นระยะเวลานานกว่า 20 ปี

มีอาการอย่างไร

          เมื่อสตรีย่างเข้าสู่วัยทอง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกายและจิตใจ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมนเพศคือ เอสโตรเจน เช่น

รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ อาจห่างออกไปหรือสั้นเข้า อาจมีเลือดประจำเดือนน้อยลง หรือมากขึ้น

เกิดอาการซึมเศร้า, หงุดหงิด, กังวลใจ, ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง, ความจำเสื่อม, ความต้องการทางเพศ หรือการตอบสนองทางเพศลดลง

ช่องคลอดแห้ง, คันบริเวณปากช่องคลอด, มีการอักเสบของช่องคลอด, เจ็บเวลาร่วมเพศ, อาจมีการหย่อนยานของมดลูก และช่องคลอด, มีการหย่อนของกระเพาะปัสสาวะ, ปัสสาวะบ่อย, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ขณะไอหรือจาม หรือขณะยกของหนัก

ผิวหนังแห้ง, เหี่ยวย่น, คัน, ช้ำและเป็นแผลได้ง่าย, ผมแห้ง, ผมร่วง

เต้านมมีขนาดเล็กลง, หย่อน, นุ่มกว่าเดิม

เกิดโรคของระบบหัวใจและหลอดเลือด พบว่าสตรีก่อนวัยหมดประจำเดือนอัตราส่วนของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันในชายจะสูงกว่าหญิงในอัตรา 9:3 แต่เมื่อสตรีเข้าสู่วัยหมดระดู จะเริ่มมีอัตราการเกิดโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้น จนมีอัตราไกล้เคียงกับชายเมื่ออายุ 70 ปี ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในสตรีวัยทอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

การขาดเอสโตรเจน โดยเฉพาะในระยะแรกของวัยหมดระดู อาจทำให้มีการสูยเสียเนื้อกระดูกได้ถึงร้อยละ 3-5 ต่อปี จนทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน และอาจมีการหักของกระดูกในส่วนต่างๆ ได้แก่ กระดูกข้อมมือ, กระดูกสันหลัง, กระดูกสะโพก เป็นต้น

การดูแลตัวเอง

          สตรีควรตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในวัยนี้ ควรหาความรู้เพิ่มเติมพร้อมดูแลตนเองให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี โดยควรรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับวัย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันสัตว์ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และบุหรี่ ควรได้รับแคลเซียมประมาณวันละ 1,000-1,500 มิลลิกรัม อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น กุ้งแห้ง, ปลาเล็กปลาน้อย, ผักใบเขียว รับประทานอาหารที่มีเอสโตรเจนธรรมชาติ เช่น ถั่วเหลือง, ข้าวโพด, ข้าวโอ๊ด, ข้าวสาลี, ข้าวบาร์เล่ย์, มันฝรั่ง, มันเทศ, มะละกอ เป็นต้น

          การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ควรกระทำในสตรีวัยหมดระดู เพราะมีผลต่อการสร้างเนื้อกระดูก มีผลดีต่อการลดไขมัน และการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่า การออกกำลังกายสามารถลดอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติ และภาวะซึมเศร้าในวัยหมดระดูได้

          ในรายที่มีอาการต่างๆ รุนแรง ได้รับความทุกข์ทรมานรบกวนความสุขในชีวิต หรือมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และ หลอดเลือด, โรคกระดูกพรุน ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาการให้ฮอร์โมนทดแทน


                                                         กลับ


 

ชายวัยทอง



          ความเชื่อที่มีกันมานานว่าผู้ชายจะคงความเป็นชายหรือมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายไปตลอดชีวิต ส่วนผู้หญิงนั้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้วรังไข่จะหยุดการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้เกิดกลุ่มอาการต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ และอารมณ์

          แท้ที่จริงแล้วเมื่ออายุย่างเข้าวัย 40 ปีขึ้นไป การสร้างฮอร์โมนเพศชายจะลดลงอย่างสม่ำเสมอทุกปี เมื่อระดับของฮอร์โมนเพศชายลดลงถึงระดับหนึ่งจะเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายไปบางส่วน ทำให้เกิดอาการต่างๆคล้ายกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

          ภาวะการพร่องฮอร์โมนเพศชายดังกล่าวมักจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อผู้ชายย่างเข้าสู่วัยกลางคน และอาการต่างๆ จะแสดงออกเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงกว่าระดับปกติของร่างกายประมาณ 20 เปอร์เซนต์ การพร่องฮอร์โมนเพศชายไปบางส่วนนี้จึงมีชื่อเรียกว่า " พา - ดาม " ตรงกับคำในภาษาอังกฤษคือ PADAM ซึ่งย่อมาจากคำว่า PARTIAL ANDROGEN DEFICIENCY OF THE AGING MALE

          ผลการศึกษาวิจัยที่เชื่อถือได้มาจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเมื่อผู้ชายอายุย่างเข้า 40 ปี การสร้างฮอร์โมนเพศชายจะลดลงปีละ 1 เปอร์เซนต์ และอาการต่างๆ อันเป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมนเพศชายนั้นจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกิดขึ้นรวดเร็วและอาการมากเหมือนผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

อาการที่บ่งบอกถึง " ภาวะการพร่องฮอร์โมนเพศชาย "

อาการระยะแรก : เมื่อร่างกายเริ่มพร่องฮอร์โมนเพศชาย อวัยวะต่างๆ ที่มีส่วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชายจะเริ่มเสื่อมลง ทำงานลดลงและเกิดอาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ตามมา

อาการทางด้านร่างกาย : จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ ไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อต่างๆลดขนาดลง ไม่มีแรง และอวัยวะเพศเริ่มไม่แข็งตัวในช่วงตื่นตอนเช้า

อาการทางด้านสติปัญญาและอารมณ์ : เครียดและหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เฉื่อยชา ขาดสมาธิในการทำงาน ความจำลดลง โดยเฉพาะความจำระยะสั้น

อาการทางด้านระบบไหลเวียนโลหิต : บางคนอาจมีอาการ ร้อนวูบวาบหรือมีเหงื่อออกในตอนกลางคืน

อาการทางด้านจิตและเพศ : จะมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นตกใจง่าย สมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลงหรือไม่มีอารมณ์เพศ บางคนเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย ปัจจุบันพบว่าชายไทยหลังอายุ 40 ปีไปแล้ว มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีอารมณ์เพศเนื่องจากฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง จึงไม่เกิดอารมณ์ที่จะมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งอวัยวะเพศชายเมื่อขาดฮอร์โมนเพศชายไปกระตุ้นแล้วก็มักจะเสื่อมลงตามไปด้วย

ภัย...ที่รุกรานในระยะยาว

          ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ผลของการขาดฮอร์โมนเพศชายจะทำให้กระดูกบางลง เป็นโรคกระดูกพรุนได้ เช่นเดียวกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ทำให้เกิดกระดูกหักในผู้ชายสูงวัยได้ นอกจากนี้กล้ามเนื้อจะค่อยๆ ลดขนาดลง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบออกกำลังกาย มีผลให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง

           สมรรถภาพทางเพศ มื่อร่างกายขาดฮอร์โมนเพศชายไปนานๆ เข้านอกจากอารมณ์เพศและการตอบสนองทางเพศลดลงแล้ว ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ ความถี่ในการถึงจุดสุดยอด รวมทั้งความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ จะลดลงไปตามระดับของฮอร์โมนเพศชายที่ขาดหายไป รวมทั้งระยะเวลาที่ขาดหายไปด้วย

เตรียมกายเตรียมใจเข้าสู่วัยทอง

          การเตรียมตัวที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง บางคนกล่าวว่าชีวิตเริ่มต้นเมื่อพ้นสี่สิบ ในวัยทองนี้จะต้องหมั่นรักษาสุขภาพกาย สุขภาพใจให้ได้ ใช้ชีวิตอย่างสุขุมรอบคอบ เดินสายกลาง ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตให้เหมาะสม ทั้งการทำงาน การพักผ่อนสันทนาการ การออกกำลังกาย รวมทั้งการทำจิตใจให้สงบ ควบคุมอาหารการกินให้ได้สัดส่วนและเหมาะสมกับวัย และแน่นอนว่าถ้าระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดลงไปนั้น ทำให้คุณภาพชีวิตเลวลงแล้ว การไปขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และรับฮอร์โมนเพศชายเสริมให้ได้ระดับปกติ อาจทำให้อาการต่างๆ อันไม่พึงประสงค์หมดไปและคุณภาพชีวิตดีขึ้น


                                                        กลับ


 

โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ



          โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในปัจจุบันหมายถึง โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย คือการที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวหรือการแข็งตัวไม่สมบูรณ์ของอวัยวะเพศ คำเดิมที่ใช้คือการหมดสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุ

          มีหลายระดับ หากไม่นับโรคทางกายเช่น อัมพฤก อัมพาต โรคเกี่ยวกับระบบเส้นเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหัวใจ โรคเหล่านี้ทำให้เกิดอาการเสื่อมได้ทั้งสิ้น เนื่องจากสุขภาพทางกายไม่แข็งแรง ในคนปกติทั่วไป หากมีโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเกิดขึ้นมีปัจจัยทั้งด้านจิตใจและสิ่งแวดล้อมเข้ามา เกี่ยวข้องในการวิจัยที่ต่างประเทศ

          การเสื่อมในผู้ชายที่แข็งแรง อายุเฉลี่ย 40-60 ปี พบว่าการเสื่อมมีสูงถึงประมาณใกล้เคียง 50 % คือ 1 ใน 2 คนมีภาวะเสื่อม การเสื่อมมีหลายระดับเช่น เสื่อมเล็กน้อยหรือเสื่อมบางครั้งบางคราว เสื่อมปานกลางคือ เริ่มมีกิจกรรมทางเพศไม่ได้ และการเสื่อมสมบูรณ์แบบคือ ไม่สามารถมีกิจกรรมทางเพศได้อีกเลย เป็นที่น่าสังเกตว่าการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเริ่มแฝงตัวในคนปกติมากขึ้นเรื่อยๆ

วิธีรักษา

          แพทย์จะซักประวัติผู้ป่วยทั้งประวัติส่วนตัว ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการผ่าตัด แพทย์จะตรวจร่างกายเพื่อดูระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ตรวจอวัยวะเพศเพื่อหาความผิดปกติ อะไรที่มีส่วนเกี่ยวข้องบางครั้ง มีการเจาะเลือด เอ็กซเรย์ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแพทย์ในการเลือก


                                                          กลับ


 

โรคต่อมลูกหมาก



          โรคของผู้ชายสูงอายุซึ่งจะเป็นกันมากก็คือ โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก โรคที่เป็นมีตั้งแต่เบาๆ ขนาดต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ ไปจนกระทั่งถึงหนักที่สุดคือ มะเร็งต่อมลูกหมาก

          ผู้ชายอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปมีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากอักเสบได้ และถ้าอายุ 50 ปีขึ้นไปก็มักจะเป็นต่อมลูกหมากโต และทั้งสองอย่างมีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ทั้งสิ้น

อาการขนาดเบาๆ

          คือ ปัสสาวะกะปริบกะปรอย คุณผู้ชายบางคนที่เคยภาคภูมิใจในความเป็นลูกผู้ชาย หรือความเป็นชายฉกรรจ์ของตน อาจจะรู้สึกเหมือนเทวดาตกสวรรค์ลงมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างถังขยะโดยไม่รู้ตัว เมื่ออยู่ๆก็พบว่ามีปัญหาเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะ คือปัสสาวะได้ไม่สุด ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเคยเข้าห้องน้ำแล้วรู้สึกเบาเนื้อเบาตัว น้ำปัสสาวะออกโล่งโถงเบาในกระเพาะปัสสาวะแต่คราวนี้กลับออกได้ไม่หมด มิหนำซ้ำ ปัสสาวะยังไหลกระท่อนกระแท่นเหมือนมีถุงทรายใบเล็กๆ ห้อยอยู่ในกระเพาะปัสสาวะข้างล่าง พอเดินออกมานอกห้องน้ำก้มลงมองดูข้างล่างก็ใจหายวาบ เพราะกางเกงเปียกเป็นหย่อมๆ ขายหน้าสาวๆ อีกต่างหาก ตอนนี้ความเป็ขชายฉกรรจ์ชักจะหดหายไปหมด

          ต่อมาอาการกะปริบกะปรอยก็เริ่มจะมีมากขึ้น จนเกิดความรักโถส้วมมากขึ้น ปัสสาวะทีก็ต้องยืนกระบิดกระบวนอยู่หน้าโถส้วมเป็นนานสองนาน พอต่อๆ ไปอาการก็เริ่มจะแปรปรวน ตอนกลางคืนต้องเข้าห้องน้ำ 3-4 ครั้ง บางคนมากกว่านั้นเข้าเกือบทุกชั่วโมงเลยก็มี

          อาการอีกอย่างก็คือ เวลาปัสสาวะบางคนจะรู้สึกแสบๆ ปัสสาวะสีแก่จัดและขุ่นข้น ที่ร้ายไปกว่านั้น (หรืออาจจะร้ายที่สุดสำหรับผู้ที่รู้สึกว่าเป็นชายฉกรรจ์) คุณผู้ชายบางคนเตะปีบไม่ดังเอาดื้อๆ อาการซึ่งเริ่มจะไม่ดีจนถึงขั้นเป็นมะเร็งได้ก็คือ เริ่มมีไข้และรู้สึกหนาวเป็นบางครั้ง มีอาการปวดบริเวณสามเหลี่ยมระหว่างใต้ลูกอัณฑะกับทวารหนัก ปวดหลังปวดเอว บางครั้งฉี่ไม่ออกเลยหรือไม่ก็จะมีเลือดออกปนมากับน้ำปัสสาวะด้วย

          ทั้งหมดนี้เป็นอาการรวมๆ ตั้งแต่น้อยไปหามากและถึงแม้ว่าอาการต่อมลูกหมากโตจะไม่เกี่ยวกับการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่อาการจากน้อยไปหามากก็จะมีเหมือนๆกัน แม้ว่าอาการเจ็บป่วยของต่อมลูกหมากจะเป็นเพียงอาการเบาๆ แต่ก็เป็นการทรมาณทางกายมากพอดู ความทรมาณที่สาหัสสากรรจ์ที่สุดอีกอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีใครมองเห็นแม้แต่แพทย์ผู้รักษาก็คือความทรมาณทางจิตใจของคุณผู้ชายซึ่งเป็นเทวดาตกสวรรค์นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมฮอร์โมนด้วย คือการผลิตฮอร์โมนของร่างกายจะผิดปกติ บางตัวขาดบางตัวเกินและมีผลทำให้เกิดอาการหงุดหงิดหรือซึมเศร้าได้ และยิ่งถ้าอาการร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะมีความเครียด และความซึมเศร้ามากขึ้น จนถึงขั้นอยากตายเลยก็ได้

          ฉะนั้นจะถือได้ว่าปัญหาซ่อนเร้นที่สำคัญนั้นก็คือปัญหาด้านจิตใจที่ผู้ป่วยจะรู้สึกคับแค้นใจและทุกข์ทรมาณมากกว่าการเจ็บป่วยทางกายหลายเท่านัก

สำหรับการรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบัน

          จะต้องอาศัยการผ่าตัดเป็นส่วนใหญ่ โดยมีเทคนิคและเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้อย่างมากมายซึ่งในที่นี้เราจะไม่ขอกล่าวถึงวิธีการรักษาของโรงพยาบาลหรือตามคลินิก แต่จะขอกล่าวถึงการรักษาด้วยวิธีผสมผสานและด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยป้องกันมิให้เป็นโรคที่แสนทรมาณโรคนี้ แผนการป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งพิสูจน์มาแล้วทั้งในแผนปัจจุบันและแผนผสมผสานก็คือ การใช้อาหาร อาหารที่ดีที่สุดสำหรับต่อมลูกหมากได้แก่ อาหารที่มีธาตุสังกะสี (Zinc) ซึ่งอาหารที่มีธาตุสังกะสีมากที่สุดก็คือ ฟักทองและเมล็ดฟักทอง นอกจากนั้นธาตุสังกะสียังมีอยู่ในอาหารอย่างอื่นอีกเช่น จมูกข้าว (ได้ทั้งจากข้าวสาลี ข้าวสาร และข้าวอื่นๆ) และมัสตาร์ดผง

          ในขณะเดียวกันก็ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งจะไปช่วยส่งเสริมการทำงานของธาตุสังกะสี ในทางกลับกันธาตุสังกะสีจะช่วยสนับสนุนวิตามินและแร่ธาตุต่างๆนั้นด้วย เรียกว่าร่วมมือร่วมใจกันทำงานให้ประโยชน์แกร่างกายอย่างเต็มที่

วิตามินและแร่ธาตุต่างๆนั้นได้แก่

วิตามิน A อาหารซึ่งมีวิตามินเอ ได้แก่ ตับปลา แครอต ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ฟักทอง มะละกอสุก เป็นต้น

วิตามิน B คอมเพล็กซ์ มีอยู่ในอาหารพวกถั่ว รำข้าว ข้าวโอ้ต ผักสีเขียวต่างๆ ยีสต์แห้ง ปลา ไข่ แคนตาลูป กะหล่ำปลี โมลาส

วิตามิน C มีอยู่ในผลไม้และผักรสเปรี้ยว ผักใบเขียว ดอกกะหล่ำ มันฝรั่ง มันเทศ

วิตามิน E มีอยู่ในจมูกข้าว ถั่วเหลือง น้ำมันพืช บร็อคเคอรี่ ผักโขม ข้าวสาลี ข้าวซ้อมมือ ไข่

วิตามิน F และเลคซิทิน ( ไขมันจำเป็น Essential Fatty Acids ) มีอยู่ในเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และงา

แมกนีเซียม มีอยู่ในลูกมะเดื่อ มะนาว ส้มโอ ข้าวโพดเหลือง ถั่วอัลมอนด์ ถั่วต่างๆ ผักใบเขียวจัด แอ็ปเปิ้ล

เกสรผึ้ง (Bee Pollen) ในเกสรผึ้งมีแร่ธาตุและฮอร์โมนหลายชนิด ได้มีการทดลองในทางการแพทย์หลายครั้งพบว่าแร่ธาตุและฮอร์โมนในเกสรผึ้งมีประโยชน์ต่อต่อมลูกหมากโดยตรง

          เหล่านี้คืออาหารซึ่งจะช่วยให้ต่อมลูกหมากดีขึ้นและช่วยป้องกันการอักเสบของต่อมลูกหมากได้ แต่ในกรณีที่เกิดการอักเสบขึ้นแล้ว ทั้งอาหารและอาหารเสริมก็ยังช่วยได้และช่วยได้ดีขึ้นถ้าจะเพิ่มปริมาณ ( Dose ) ของวิตามิน-แร่ธาตุให้มากขึ้น โดยใช้วิตามิน-แร่ธาตุเหล่านี้ในลักษณะของเม็ดยาซึ่งสกัดมาแล้ว คือเพิ่มขึ้นตามปริมาณต่อไปนี้

วิตามินเอ 10,000-25,000 I.U. ต่อวัน

วิตามินบี1 , 6 , 12 อย่างละ 50 มก. ต่อวัน

เกสรผึ้ง 3-9 เม็ด ต่อวัน

วิตามินซี 3,000-5,000 มก. ต่อวัน

วิตามินอี 800 I.U. ต่อวัน

แมกนีเซียม 500 มก. ต่อวัน

Zinc 200 มก. ต่อวัน

          และควรจะงดเหล้า - บุหรี่ พร้องทั้งลองเปลี่ยนจากการนั่งเก้าอี้เบาะมาเป็นนั่งเก้าอี้แข็ง ถ้าจะให้ดี ควรเสริมท่าบริหารด้วยการ นอนหงาย งอเข่า เท้าทั้งสองชิดกัน แล้วแยกเข่าออกสองข้างช้าๆ ยกกลับคืนท่าเดิม ทำอย่างนี้เช้า-เย็น อย่างน้อยได้สัก 20 ครั้งจะดีมาก


                                                        กลับ


 

โรคเอดส์



          โรคเอดส์ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Acquired Immune Deficiency Syndrome มีชื่อโดยย่อว่า AIDS = เอดส์ โรคเอดส์คือ โรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องจนไม่สามารถต่อสู้เชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่างๆ ที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ง่ายกว่าคนปกติ ขณะนี้โรคเอดส์กำลังระบาดในทวีปอเมริกา ยุโรป อาฟริกา แคนนาดา โรคนี้ได้ติดต่อมาถึงบางประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย

โรคเอดส์เกิดจากอะไร

          โรคเอดส์เกิดจากเชื้อไวรัส มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Human Immunodeficiency Virus (HIV)

โรคเอดส์เป็นกับใครบ้าง

          โรคเอดส์ส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทย มักเกิดในพวกรักร่วมเพศ ชายที่เปลี่ยนคู่บ่อยๆ ปัจจุบันพบว่าเกิดในพวกรักต่างเพศได้ โดยเฉพาะในเพศชายที่ชอบเที่ยวโสเภณี

โรคเอดส์ติดต่อกันได้อย่างไร

          โรคเอดส์ติดต่อกันได้หลายทาง แต่ที่สำคัญและพบบ่อย ได้แก่

การร่วมเพศกับผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือมีเชื้อโรคเอดส์

การรับถ่ายเลือดจากผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือมีเชื้อโรคเอดส์

การใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด หรือร่วมกับผู้ป่วยโรคเอดส์

จากแม่ที่ตั้งครรภ์ป่วยเป็นโรคเอดส์ติดต่อไปถึงลูกที่อยู่ในครรภ์

          โรคเอดส์ไม่ติดต่อโดยการเล่นด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน เรียนร่วมกัน ไปเที่ยวด้วยกัน หรืออยู่ในครัวเรือนเดียวกัน หากไม่มีความเกี่ยวข้องทางเพศ

อาการของโรค

          หลังจากได้รับเชื้อโรคเอดส์เข้าไปในร่างกายแล้วจะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-3 เดือน จึงตรวจพบเลือดบวกต่อโรคเอดส์ ผู้ที่ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องมีอาการทุกคน ระยะฟักตัวก่อนมีอาการแตกต่างกันมากจาก 2-3 เดือน ถึง 5-6 ปี ประมาณกันว่า 25-30% ของผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 5 ปี อีก 70% จะไม่มีอาการ แต่จะเป็นพาหะของโรคและแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

อาการที่พบในผู้ป่วยโรคเอดส์

อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

มีไข้นานเป็นเดือนๆ

ต่อมน้ำเหลืองโต

ท้องเดินเรื้อรังจากโรคพยาธิ

มีแผลในปาก และตามผิวหนัง

มีอาการทางสมอง เช่น ชัก อัมพาต

โรคติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะปอดบวมจากพยาธิ เชื้อรา วัณโรค ฯลฯ

มะเร็งของต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือด และสมอง ฯลฯ

การวินิจฉัย

          โรคเอดส์วินิจฉัยได้จากอาการข้างต้น ประกอบกับการตรวจเลือดบวกต่อโรคเอดส์ วิธีการตรวจเลือดมี 2 วิธี วิธีแรกเรียกว่า Elisa ถ้าพบว่าเลือดบวกจะตรวจยืนยันโดยวิธี Western Blot การตรวจเลือดนี้ไม่จำเป็นต้องทำในคนทั่วไปแต่ควรตรวจในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคนี้สูง ซึ่งได้แก่พวกรักร่วมเพศ ผู้หญิงและชายบริการ ผู้ที่ได้รับการถ่ายเลือดบ่อยๆ ผู้ติดยาทางเส้นเลือด

การรักษา

          ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ การรักษาจึงเป็นการรักษาโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่แทรกซ้อนซึ่งไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะผู้ป่วยขาดภูมิต้านทาน และมักเสียชีวิตเนื่องจากโรคติดเชื้อ

การป้องกัน

ไม่สำส่อนทางเพศ ควรสวมถุงยางอนามัยเวลาร่วมเพศกับคนแปลกหน้า

พยายามอย่าเปลี่ยนคู่นอนในหมู่รักร่วมเพศ

อย่าร่วมเพศกับผู้ป่วยหรือสงสัยว่าเป็นโรคเอดส์

ก่อนรับการถ่ายเลือดควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริจาคเลือดไม่มีเชื้อโรคเอดส์

อย่าใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาดหรือร่วมกับผู้ติดยาเสพติด


                                                         กลับ