25.1.55

กฎแห่งกรรมกับโหราศาสตร์



          กฎแห่งกรรมนั้นพระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นผู้สร้างขึ้น พระองค์เป็นผู้ค้นพบกฎธรรมชาติข้อนี้(และข้ออื่นๆ) แล้วนำมาชี้แจงสั่งสอนแก่คนทั่ว ๆ ไป กฎแห่งกรรมโดยย่อมีเพียงว่า "ผู้ที่ทำดีย่อมได้รับผลดี ผู้ที่ทำความชั่วย่อมได้รับผลชั่ว ไม่ช้าก็เร็ว"

          กรรมและผลของกรรม(วิบาก) แบ่งตามที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาได้ 12 ข้อ โดยแบ่งเป็น 3 หมวด คือ
หมวดที่ 1 กรรมที่ได้ผลตามกาล มี 4 ข้อ
หมวดที่ 2 กรรมที่ให้ผลตามหน้าที่ มี 4 ข้อ
หมวดที่ 3 กรรมที่ให้ผลตามลำดับ 4 ข้อ

หมวดที่ 1 กรรมที่ได้ผลตามกาล มี 4 ข้อ
1. กรรมที่ให้ผลในชาติปัจจุบัน (ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม)
2. กรรมที่ให้ผลในชาติหน้า(อุปัชชเวทนียกรรม)
3. กรรมที่ให้ผลในชาติต่อ ๆ ไป (อปราปรเวทนียกรรม)
4. กรรมที่ให้ผลเสร็จแล้ว/ไม่มีผล (อโหสิกรรม)

          กรรมที่เรากระทำในปัจจุบันก็ย่อมจะให้ผลกรรมแก่เราทั้ง 4 ข้อนี้ และผลของกรรม(วิบาก) ที่เรากำลังได้รับในปัจจุบันก็เป็นผลของกรรมทั้ง 4 ข้อนี้เหมือนกัน โดยข้อ 1 ถึง 3 หมายถึงกรรมที่เราเคยทำมาในชาติก่อน ๆ แล้วมาให้ผลเราในชาติปัจจุบัน

หมวดที่ 2 กรรมที่ให้ผลตามหน้าที่ มี 4 ข้อ
1. กรรมแต่งให้เกิด (ชนกกรรม)
2. กรรมสนับสนุน (อุปัตถัมภกกรรม)
3. กรรมบีบคั้น (อุปปีฬกกรรม)
4. กรรมตัดรอน (อุปฆาตกกรรม)

หมวดที่ 3 กรรมที่ให้ผลตามลำดับ 4 ข้อ คือผลของกรรมจะเกิดผลตามลำดับก่อนหลังอย่างไรขึ้นอยู่กับ 4 ข้อต่อไปนี้คือ
1. กรรมหนัก หรือครุกรรม
2. กรรมใกล้ตาย หรืออาสันนกรรม
3. กรรมที่ทำบ่อย ๆ หรืออาจิณณกรรม
4. กรรมสักว่าทำ หรือกตัตตากรรม

ในที่นี้จะขอกล่าวถึงชนกกรรมหรือกรรมแต่งให้เกิด เพราะเกี่ยวโยงกับเรื่องโหราศาสตร์

กรรมแต่งให้เกิดหรือชนกกรรม

          คือกรรมที่บันทึกไว้ในปฎิสนธิจิตหรือปฎิสนธิวิญญาณ ที่ส่งคน/สัตว์โลกอผู้นั้นไปเกิด พอเกิดแล้วก็หมดหน้าที่ของชนกกรรมไป แต่หน้าที่ที่แต่งให้เกิดนี้จำแนกย่อยได้หลายส่วนเช่น
- ให้เกิดเป็นอะไร เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต เป็นเทวดา เป็นต้น
- ให้เกิดมีรูปร่างอย่างไร ถ้าเป็นมนุษย์ก็เช่นอาการครบ 32 หรือพิการ ให้เป็นคนหล่อคนสวยหรือขี้ริ้วขี้เหร่ ลงไปในรายละเอียดเลยคือ ปาก จมูก ตาคิ้ว ผม ฯลฯ จะเป็นอย่างไร (คือเมื่อเกิดและเติบโตแล้วจะเป็นอย่างไร)
- ให้เกิดในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย ปานกลางหรือยากจน
- ให้เกิดในตระกูลที่ยศถาบรรดาศักดิ์สูงเช่น เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน หรือในตระกูลคนธรรมดา
- ให้เกิดเป็นคนที่มีพื้นนิสัยเป็นคนที่ดี หรือมีพื้นนิสัยเป็นคนไม่ดี
- ชนกกรรมนี้เป็นตัวส่งให้ปฎิสนธิวิญญาณไปเกิดในกาลเวลา(วัน เดือน ปี) และสถานที่(ตำบล เมือง ประเทศ) ที่เหมาะสมที่จะทำให้การแสดงผลของกรรมต่าง ๆ ทุกข้อที่ทำไปในอดีต(ทุกชาติ) มีผลโดยสมบูรณ์ตามกฎแห่งกรรม

          เรื่องวันเวลาสถานที่เกิดนั้นเกี่ยวโยงกันโดยตรงเช่น เด็ก 3 คนเกิดในนาทีวันเดือนและปีเดียวกัน แต่เกิดต่างสถานที่คือกรุงเทพ ลอนดอน และนิวยอร์ก ก็แปลว่าเด็กทั้ง 3 คนเกิดไม่พร้อมกัน ต่างเวลากันหลายชั่วโมงเป็นต้น


เพื่อให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้น สมมุติให้
A คือกรรมที่ทำในอดีต
B คือชีวิตใหม่ที่เกิด (ชนกกรรม แต่งมาให้เกิด ณ วันเวลา สถานที่บนโลกที่เหมาะสม)
C คือผลกรรมในชีวิตใหม่


          ชนกกรรมนั้น นอกจากจะส่งปฎิสนธิวิญญาณมาเกิดเป็นชีวิตใหม่ใครรภ์มารดาที่ B (มีกาละ เทศะ ที่เหมาะสม เป็นพื้นฐานของการคำนวนโหราศาสตร์แบบผูกดวง) แล้ว ยังทำหน้าที่กำหนดโครงสร้างพันธุกรรม(DNA) ของชีวิตใหม่ร่วมกับยีนของบิดามารดาด้วย คือจะกำหนดไปว่า คนที่เกิดใหม่นี้จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร สูง ต่ำ ดำ ขาว ปาก จมูก คิ้ว สีผม ฯลฯ เป็นอย่างไร และมีรายละเอียดรูปร่างแน่ชัดไปเลย ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้ว DNA นี้ก็ยังแสดงสุขภาพโรคภัยไข้เจ็บพื้นฐานของชีวิตใหม่ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นกรรมจากอดีตทั้งหมดคือ A ที่บันทึกไว้ในชนกกรรม โดยปฎิสนธิวิญญาณนำมาถ่ายทอดไว้กับ DNA ของชีวิตใหม่นั่นเอง

          การทำนายจากลักษณะรูปร่างหน้าตาที่เราเรียกว่านรลักษณ์ศาสตร์ , โหงวเฮ้ง , ลายมือ , ลายเท้า ฯลฯ ก็มีผลเชื่อมโยงมาจากความจริงข้างต้นด้วย

          วิชาโหงวเฮ้ง ทำนายอุปนิสัยใจคอคนจากรูปร่างหน้าตา(โดยหลักสถิติจากการสังเกตุเช่นกัน) ว่าคนที่มีหน้าตาแบบนี้ รูปคิ้วเช่นนี้ จมูกแบบนี้ จะมีนิสัยใจคอเป็นเช่นนั้น ก็ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีความเเม่นยำสูง รูปร่างหน้าตาของคนเรานั้นถูกกำหนดโดย DNA และ DNA ก็ถูกกำหนดโดยชนกกรรม ซึ่งชนกกรรมก็คือผลรวมของกรรมในอดีตชาติของคนคนนั้นมาเกิดใหม่นั่นเอง

          วิชาโหราศาสตร์ที่เกี่ยวกับการดูลายมือ ลายเท้า ก็อธิบายได้ในลักษณะเดียวกันเพราะลายมือลายเท้าก็เป็นผลสร้างสรรค์มาจาก DNA ของคนผู้นั้นเช่นกันซึ่งก็ย้อนไปหาชนกกรรมและกรรมเก่าที่ทำไว้ในอดีตชาติได้ แต่ที่แตกต่างไปบ้างก็คือลายมือคนนั้นเปลี่ยนแปลงได้พอสมควร ลายมือที่เปลี่ยนไปบ้างนั้นเพราะสะท้อนการกระทำกรรมใหม่ของคนนั้น ๆ ในชาติปัจจุบันด้วย

          การทำนายโดยไพ่ยิปซีหรือไพ่ทาโร่ท์นั้น เป็นการทำนายโดยใช้กระแสจิต(Psychic) มาเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากอผู้ทำนายจะต้องฝึกตนให้มีพลังจิต มีกระแสจิตแรง มีความรอบรู้รายละเอียดของไพ่ทั้งหมด ซึ่งมีอยู่หลายชุดโดยไพ่แต่ละใบก็มีหลายความหมายโดยกว้าง การทำนายแบบนี้ผู้มารับคำทำนายเป็นผู้เลือกไพ่เอง ก็จะเกี่ยวโยงกับพลังของกรรมที่สะสมอยู่ในจิตของผู้ถูกทำนายเอง ที่จะทำให้การเลือกไพ่สอดคล้องกับแนวทางที่ผลของกรรมจะปรากฎขึ้นในอนาคตตามกรรมที่ทำไปจริง ๆ กล่าวโดยรวม การทำนายโดยไพ่ยิปซีผู้ทำนายจะต้องมีพลังจิตสูงหรือกระแสจิตแรง สามารถอ่านรอยกรรมหรือแนวโน้มที่กรรมจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอยู่ในจิตของผู้ถูกทำนาย โดยอาศัยอุปกรณ์สำคัญคือไพ่ทาโร่ท์ที่ผู้ถูกทำนายตัดสินใจหยิบเองตามลำดับในวิธีการทำนาย โหราศาสตร์แขนงนี้คนทั่วไปก็ยอมรับว่ามีความแม่นยำสูง หากผู้ทำนายมีความสามารถจริง

กฎแห่งกรรมนั้นเป็นกฎธรรมชาติที่เป็ดนจริงและเที่ยงตรง ชะตาชีวิตของคนเราเป็นไปตามกรรมที่บุคคลนั้นได้ทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงวันที่เป็นปัจจุบัน

          โหราศาสตร์แม้จะเป็นศาสตร์จริง ๆ และมีความแม่นยำสูง แต่มิได้แปลว่าดวงดาวต่าง ๆ ในจักรวาล หรือไพ่ยิปซี หรือลายมือ เราเองกำหนดชะตาชีวิตคน โหราศาสตร์เป็นเพียงเครื่องแสดงหรือเครื่องชี้เท่านั้นเอง บุคคลผู้นั้นน่าจะได้รับผลกรรมเป็นอย่างใดจากกรรมที่บุคคลนั้นได้กระทำมาในอดีตชาติ ก่อนจะมาเกิดเป็นชีวิตใหม่ในชาติปัจจุบัน หรือจากกรรมที่บุคคลนั้นทำมาในอดีตทั้งหมดจนถึงเวลาปัจจุบันที่มีการทำนาย


บทความ
โหราศาสตร์เชื่อถือได้หรือไม่





หนังสืออ้างอิงเพื่อการค้นคว้าเพิ่มเติม
- ตามหาความจริง วิทยาศาสตร์กับพุทธธรรม ศาสตร์ที่เป็นคนละเรื่องเดียวกัน
  โอฬาร เพียรธรรม  กรุงเทพ : ธรรมดา
- หลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด
   วศิน อินทสระ  กรุงเทพ : ธรรมดา
- กฎแห่งกรรม
   พระเทพวิสุทธิกวี  กรุงเทพ : มหามกุฏราชวิทยาลัย




                                                                   กลับ