โหราศาสตร์เป็นเรื่องเชื่อถือได้ แต่ที่ไม่น่าจะเชื่อถือน่าจะอยู่ที่ตัวหมอดูมากกว่า ซึ่งจะมีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายจากการผูกดวงผิดซึ่งจะทำให้การแปลความหมายผิดอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเป็นหมอดูสมัยเก่าที่ใช้ปฎิทินโหราศาสตร์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์คำนวนโอกาสผิดพลาดยิ่งมีมาก เช่นดูผิดหน้า มองผิดบรรทัด ส่วนโปรแกรมคำนวนจากคอมพิวเตอร์ก็ใช่ว่าจะไม่มีความผิดพลาดถ้าตรวจเช็คไม่ดีไม่รอบคอบ
โหราศาสตร์เป็นวิชาที่เป็นผลมาจากกฎธรรมชาติหรือจากวิทยาศาสตร์หลาย ๆ แนวมารวมกัน คือวิชาสถิติ วิชาฟิสิกส์(ควอนตัม) พันธุกรรมศาสตร์ และดาราศาสตร์ โหราศาสตร์นั้นแม้จะมีจริง แต่โหราศาสตร์มิได้เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตมนุษย์ กฎแห่งกรรมเป็นกฎธรรมชาติที่กำหนดชะตาชีวิตมนุษย์(และสัตว์โลกทั้งปวง) ตามหลักการของพุทธศาสนา เมื่อมนุษย์ไปเกิดในครรภ์มารดา มีกรรมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ชนกกรรม" นำไปเกิด ชนกกรรมมีหน้าที่หลายอย่าง ตามที่ระบุในพระคัมภีร์(กรรม 12) เช่น ให้เกิดเป็นคนรวยหรือคนจน เป็นคนสวยหรือขี้เหร่ เป็นคนที่มีพื้นนิสัยดีหรือไม่ดี เป็นต้น แต่ชกกรรมนี้ยังมีหน้าที่อีกอย่างหนึ่งคือ ส่งปฏิสนธิจิต/วิญญาณ ไปเกิด
- ในนาที วัน เดือน ปี (คือกาล) ที่เหมาะสม
- ณ ตำบล เมือง ประเทศ ส่วนหนึ่งของโลกที่หนึ่ง (คือเทศะ) ที่เหมาะสม
- ในครอบครัวที่เหมาะสม
ฯลฯ
เหมาะสมกับอะไร คือเหมาะสมกับชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นจะต้องมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ สรรพสิ่งอื่น ๆ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เพื่อให้มนุษย์ที่เกิดใหม่นี้รับผลกรรมที่ได้กระทำไว้ในชาติก่อน ๆ ได้โดยครบถ้วน ถูกต้องและเป็นธรรม ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ เช่น หากเกิดช้าไปหรือเร็วไปสัก 10 ปี อายุก็ไม่เหมาะสมที่จะเจอเพื่อนสนิท คู่รัก คู่แค้น ที่จะต้องมาชดใช้กรรมกันในชาติใหม่ หรือเกิดผิดจากตำบลที่ควรเกิดไปหลายร้อยหรือหลายพันกิโลเมตร การพบเจอหรือปฎิสัมพันธ์กับบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันในชาติใหม่(จากกรรมในชาติก่อน) ก็ไม่เหมาะสมเท่ากับมาเกิด ณ ตำบลนั้น ๆ เป็นต้น
วิชาโหราศาสตร์เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมามีความเชื่อว่า มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รวมทั้งสิ่งไม่มีชีวิต เช่นโลก ดวงดาว จักวาล ฯลฯ มีความเกี่ยวโยงปฎิสัมพันธ์กันหมด จึงมีการสังเกตุและทำสถิติว่า คนที่เกิด ณ เวลา วัน เดือน ปีนั้น ณ สถานที่ซึ่งเป็นจุดหนึ่งบนพื้นโลก และก็มาเทียบกับดวงดาวต่าง ๆ โดยเฉพาะในระบบสุริยะจักรวาล(ซึ่งเคลื่อนที่ไปตลอดเวลา) และมีอิทธิพลต่อโลกมากกว่าจักรวาลอื่น ๆ ที่ไกลออกไป หลังจากทำสถิติคือสังเกตุไปมาก ๆ เข้าจึงสรุปได้ว่า คนที่เกิดในกาละและเทศะอย่างนี้ มักจะมีเหตุการณ์ในอนาคตเป็นอย่างนี้ ก็เป็นที่มาของวิชาโหราศาสตร์แบบผูกดวงหรือพูดอีกทางหนึ่งก็ได้ว่า โหราศาสตร์เอาเวลาและสถานที่ ซึ่ง "ชนกกรรม" แต่งมาให้เกิดมาคำนวนร่วมกับดวงดาวในสุริยจักรวาล(ซึ่งเชื่อว่ามีปฎิสัมพันธ์กับโลกและมนุษย์ทั้งหลาย) รวมกับสถิติที่ได้มาจริงๆ จากมนุษย์ที่เกิด ณ เวลาและสถานที่ ที่แตกต่างกันมาสรุปว่า เกิดอย่างนี้จึงจะได้รับกรรมอย่างนี้ จะเรียกว่าเป็นวิชาที่สังเกตุการเกิดผลแล้วย้อนไปหาเหตุก็คงได้
เพื่อให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้น สมมุติให้
A คือกรรมที่ทำในอดีต
B คือชีวิตใหม่ที่เกิด (ชนกกรรม แต่งมาให้เกิด ณ วันเวลา สถานที่บนโลกที่เหมาะสม)
C คือผลกรรมในชีวิตใหม่
กฎแห่งกรรมแสดงผลกรรมที่เป็น A ทำให้มีชีวิตใหม่ที่เป็น B และได้รับผลกรรมในชีวิตใหม่เป็น C (ซึ่งรวมกรรมที่ทำในชาติปัจจุบันด้วย) โหราศาสตร์จากการสังเกตุและสถิติพบว่า คนที่เกิดที่ B มักจะมีอนาคตเป็น C คนที่เกิด B1 ก็มักจะมีอนาคตเป็น C1 หากเกิด B2 ก็มักจะมีอนาคตเป็น C2 เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ แต่โหราศาสตร์จะมองไม่เห็น A แต่ก็พอจะสรุปได้ว่า เพราะ A คือกรรมที่นำมาแตกต่างกัน จึงทำให้มาเกิดเป็น B ซึ่งแตกต่างกัน และได้รับผลกรรม C ที่แตกต่างกันไปด้วย
กฎแห่งกรรมแสดงกรรมต่าง ๆ ในอดีตชาติที่ทำทั้งหมด สมมุติ A และชนกกรรมส่งปฎิสนธิวิญญาณมาเกิดเป็นชีวิตใหม่ ที่ B โดยจะได้รับผลกรรมในชีวิตใหม่เป็น C อย่างไรก็ดีต้องไม่ลืมว่าผลกรรมในชีวิตใหม่ที่เป็น C นั้น เป็นผลกรรมในอดีต A และผลกรรมที่ทำใหม่ในชาติปัจจุบันด้วย
กฎแห่งกรรมกำหนดชะตาชีวิตของสัตว์โลกทั้งปวง แต่โหราศาสตร์ก็มีจริงและเชื่อถือได้ (ไม่ 100% เพราะองค์ประกอบหนึ่งของโหราศาสตร์คือสถิติ) รูปนามทั้งหลายทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในสากลจักรวาลนี้มีความเกี่ยวโยงหรือมีปฎิสัมพันธ์กันเสมอ มากน้อยตามแต่เหตุและปัจจัย
โหราศาสตร์คือวิชาการทำนายโชคชะตาชีวิตของคน รวมทั้งของบ้านเมืองและของโลกด้วย มีหลายวิธี เช่น การผูกดวง ดูลายมือ ไพ่ยิป ฯลฯ คนเชื่อโหราศาสตร์ก็มีมาก คนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็มีมาก คนที่ไม่เชื่อก็มีมากเช่นกัน (คนที่ไม่เชื่อนี้ พอมีเคราะห์กรรมหนักหนาสาหัสหน่อย ก็ถอยมาเป็นแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งไปดูหมอกันมีไม่น้อย) วิถีชีวิตของคนเราเป็นไปตามกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น ดวงดาวต่าง ๆ ในวิชาโหราศตร์ซึ่งหมอดูเอามาคำนวนทางโหราศาสตร์ ย่อมไม่มีผลต่อชะตาชีวิตของใครแต่อย่างใด เพียงแต่วิชาโหราศตร์บอกแนวโน้มที่ควรเป็นไปของชีวิตเท่านั้น
บทความ
กฎแห่งกรรมกับโหราศาสตร์
หนังสืออ้างอิงเพื่อการค้นคว้าเพิ่มเติม
- ตามหาความจริง วิทยาศาสตร์กับพุทธธรรม ศาสตร์ที่เป็นคนละเรื่องเดียวกัน
โอฬาร เพียรธรรม กรุงเทพ : ธรรมดา
- หลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด
วศิน อินทสระ กรุงเทพ : ธรรมดา
- กฎแห่งกรรม
พระเทพวิสุทธิกวี กรุงเทพ : มหามกุฏราชวิทยาลัย
กลับ