7.7.53

หายไปไหน

        
           สมุทรสงคราม จังหวัดที่มีพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทยประมาณ 416.7 ตารางกิโลเมตร มีสิ่งศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองคือหลวงพ่อบ้านแหลมวัดเพชรสมุทรวรวิหารหรือวัดบ้านแหลม ซึ่งคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะเซียนพระ สมุทรสงครามเป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมและเพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังไม่ถูกสังคมเมืองกัดกร่อนมากนัก อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนอยากไปสัมผัสหนึ่งในนั้นก็คือตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งก็มีแรงดึงดูดให้หนุ่มสาวคู่หนึ่งอยากไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ไปชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำ ไปกราบนมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลมเพื่อความเป็นสิริมงคล

          หลังจากเมื่อวานไปเที่ยวกันมาทั้งวันผ่านคืนอันหลับไหล เช้าวันสบายๆวันนี้ทั้งคู่จึงชวนกันลงไปเล่นน้ำในแม่น้ำให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ สายๆจะได้ไปเที่ยวกันต่อ หลังจากเล่นน้ำกันไปได้สักพักฝ่ายหญิงก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่พอกลับมาที่แม่น้ำกลับไม่เห็นแฟนหนุ่ม ไม่รู้หายไปไหน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าแฟนหนุ่มก็คงจะไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน จึงรออยู่ที่แม่น้ำจนรู้สึกว่าหายไปนานผิดสังเกตุเลยตามไปดูที่ห้องน้ำตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จึงกลับเข้าไปตามในที่พักแต่ก็ไม่เจอ จึงรออยู่ในที่พักด้วยความว้าวุ่นใจ

" หายไปไหนนะ "

" เดี๋ยวกลับมาก่อนเถอะ จะต่อว่าซะให้เข็ด "

          รอจนแล้วจนรอดก็ไม่กลับมาซะที จึงลองออกไปตามหาแฟนหนุ่มแถวๆนั้นดู ถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครเห็นคนรูปร่างลักษณะตามที่บอกไว้ ทีนี้ชักร้อนใจละสิเพราะเจอกันครั้งสุดท้ายในแม่น้ำ และชาวบ้านก็บอกว่าที่บริเวณนี้ " มีคนจมน้ำตายทุกปี " เขาเรียกว่าเป็นตัวตายตัวแทนซึ่งก็เป็นความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมา คนที่จมน้ำตายถ้าจะได้ไปเกิดก็ต้องมีคนมาตายแทนที่ก่อนเมื่อลงความเห็นว่าน่าจะจมน้ำ ชาวบ้านจึงช่วยกันออกตามหาแล้วให้สาวเจ้าไปแจ้งความแจ้งมูลนิธิมาช่วยกันงมศพ ทีมค้นหานักประดาน้ำก็ช่วยกันหาตั้งแต่สายๆเริ่มบ่ายคล้อยจนตะวันลาลับขอบฟ้าก็ยังหาไม่เจอ ไร้วี่แววใดๆ ในใจลึกๆของหญิงสาวก็ได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีเรื่องราวร้ายๆกับเกิดขึ้นกับแฟนหนุ่มเลย

          สวนสาธารณะตอนเย็นๆ จะมีผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่คนเฒ่าคนแก่ต่างก็เข้ามาใช้สถานที่กันมาก บ้างก็เข้ามาพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน หนุ่มสาวก็เข้ามานั่งคุยกันเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เด็กๆก็วิ่งเล่นเฮฮาสนุกสนาน นักกีฬาก็มาออกกำลังกาย บ้างก็เดินบ้างก็วิ่ง แบตมินตันก็มี นักบาสก็มา แต่กีฬาที่ผู้ชายชอบมากเป็นกีฬายอดฮิตก็คือฟุตบอล " คนเพียบ " ส่วนผมเองก็เดินตรงไปยังสนามตะกร้อ เล่นกีฬาไทยๆดีกว่าเป็นกีฬาที่มีรสชาดในตัวเอง เล่นแล้วติดใจมันส์ดีเหมือนโดนมนต์สะกด....ฮา

" พี่เคน...มีสายเข้า "

" อืม..ไม่เป็นไรๆ...เดี๋ยวค่อยโทรกลับ "

" พี่ๆ...มีสายเข้า "

" พี่ๆ...มีสายเข้ามาอีกแล้ว "

          คราวนี้ต้องเดินมาดูซะหน่อย หยิบโทรศัพท์มาดูสายไม่ได้รับ 5 สาย เป็นเบอร์เดียวกันทั้งหมดที่สำคัญเบอร์มันคุ้นๆ สงสัยจะเป็นเบอร์ลูกค้า ( ปกติผมแทบจะไม่ได้บันทึกเบอร์ใครเลยนอกจากจะสนิทจริงๆเท่านั้น ) แต่ก็ยังไม่ได้โทรกลับอยู่ดี ไปเล่นะกร้อต่อ..กำลังมันส์

" พี่ๆ...มีสายเข้ามาอีกแล้ว "

          น้องๆข้างสนามเริ่มบ่นๆละ รับสายซะหน่อยเถอะพี่เขาอาจจะกำลังมีเรื่องเดือดร้อนจริงๆถึงกับวิ่งเอาโทรศัพท์มาให้เลย จริงๆแล้วเป็นแผนการของมันเพราะจะได้เข้ามาเล่นแทนเรา " ไอ้เด็กพวกนี้ "

" สวัสดีครับ "

" พี่ๆมีเรื่องเดือดร้อนให้ช่วย กว่าจะรับสายได้ " ก็มีการรำพึงรำพันต่อว่ากันเล็กน้อย

" ไม่ทราบว่าผมพูดสายกับใครอยู่ครับ "

" หญิงเอง หญิง..หญิง "

          ผมนิ่งไปสักครู่ อืม...อ๋อ..น้องหญิงสาวแบงค์นี่เอง..นึกว่าใคร โทรมาซะถี่ยิบเลยมีอะไรให้ช่วยเหรอจ๊ะ เออ..ก็เพื่อนหญิงไปเที่ยวกับแฟน แล้วอยู่ๆแฟนก็หายไป

" อยู่ๆหายไปได้ยังไงละ " หนีไปกับกิ๊กรึเปล่า

          อย่าพึ่งมาตลกพี่ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เพื่อนหญิงไปเที่ยวอัมพวากับแฟนแล้วก็ลงไปเล่นน้ำกัน แล้วเพื่อนก็ไปเข้าห้องน้ำเสร็จธุรกลับมาไม่รู้แฟนหายไปไหน ชาวบ้านแถวนั้นคิดว่าจมน้ำตาย ตอนกลางวันหญิงก็เลยโทรไปถามคุณตา (คุณตาของน้องหญิงเป็นคนมีสัมผัสพิเศษ มองเห็นสิ่งลี้ลับอะไรประมาณนั้น)คุณตาก็บอกว่าเสียชีวิตแล้ว " แต่ทำไมหาศพไม่เจอละตา " ตาก็บอกว่ามีสาหร่ายหรือกิ่งไม้เกี่ยวไว้แต่เขาหากันมาทั้งวัน หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ พี่ช่วยหญิงหน่อยตกลงตายจริงมั๊ย ถ้าตายจริงศพอยู่ตรงไหน

" ตายจริงแท้แน่นอน "

          เพราะช่วงเวลาที่เราคุยกันอยู่นี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย สูญสิ้น ดับสูญ ถ้าถามเรื่องความรักก็ต้องบอกว่าเลิกกันแน่ๆ ถามเรื่องอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น แต่ที่ถามเกี่ยวกับความเป็นความตายของชีวิตก็คงต้องบอกว่าตายจริงๆ

" แล้วศพอยู่ไหนละ ทำไมถึงหากันไม่เจอ "

" งั้นลองไปหาดู ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 500 เมตร "

" แถวนั้นน่าจะมีวัดอยู่ ศพจะลอยไปติดโขดหินโขดดินใต้น้ำ อยู่แถวๆท่าน้ำหน้าวัด "

          ลองโทรไปถามเพื่อนเราดูสิ ว่าห่างจากจุดเกิดเหตุแถวๆนั้นมีวัดอยู่ริมน้ำรึเปล่า ถ้ามีก็ไปหาแถวๆท่าน้ำหน้าวัดเลยไม่ต้องไปหาที่อื่น ลองหาซ้ำไปซ้ามา วนไปวนมาแถวๆหน้าวัดก็พอหลังจากวางสายไปได้สักพัก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงจากปลายสายบ่งบอกถึงอาการตื่นเต้นสุดๆ

" โห...พี่ ห่างจากจุดเกิดเหตุแถวนั้นมีวัดอยู่จริงๆด้วย รู้ได้ไงเนี่ย "

" งั้นก็ลองหาแถวนั้นดู "

          ไม่ได้ละพี่ หญิงโทรหาพี่ตั้งแต่ 5 โมงเย็น พี่มารับเอาตอนทุ่มกว่าๆเกือบจะสองทุ่มและกว่าจะโทรติดต่อกันกลับไปกลับมาอีก นักประดาน้ำเขากลับไปกันตั้งแต่หัวค่ำละ เพื่อนหญิงก็พยายามจะให้เขามาช่วยค้นหาต่อ แต่ก็ไม่ไหวเขาหากันมาทั้งวันแล้ว ขอพักเอาแรงก่อน แล้วพรุ่งนี้จะมาช่วยค้นหาแต่เช้า

          เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้อง ผมงัวเงียๆขึ้นมาปิด เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยก็เลยอยากจะงีบต่ออีกสักหน่อย แต่สัญชาตญาณบอกไว้ว่าต้องตื่นแล้ววันนี้มีนัดต้องไปดูฮวงจุ้ยให้ลูกค้า ก็รีบลุกไปอาบน้ำอาบท่าทำธุระส่วนตัวให้เสร็จสรรพ วันนี้ต้องไปสองที่ ที่ดอนเมืองและก็ปทุมธานีก็คงต้องใช้เวลาทั้งวันแน่ๆ
          เรื่องฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่คนสมัยนี้ให้ความสนใจกันมาก ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องงมงายเหมือนในอดีตอีกต่อไปที่ชอบเอาภูตผีปีศาจมาอ้าง เพราะฮวงจุ้ยสามารถอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ ฮวงจุ้ยมาจากคำสองคำคือ ฮวงแปลว่าลม และจุ้ยแปลว่าน้ำ เพราะความหมายแท้จริงแล้วฮวงจุ้ยก็คือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ปรับตัวให้สอดคล้องกับธรรมชาติ หรือปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับตัวเรา ฮวงจุ้ยมีผลกับชีวิตมนุษย์เราจริงๆแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็คงเป็นไปตามวาสนาและการกระทำของเรา บางคนบอก โอ้โห..ฮวงจุ้ยช่วยเราได้ตั้ง 20 เปอร์เซ็นต์เลยเหรอ แต่บางคนก็บอกอะไรกันช่วยได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์แค่นี้นะ หลังปรับแก้ฮวงจุ้ยให้ลูกค้าที่ดอนเมืองเสร็จ กำลังเดินทางไปปทุมธานีฝนจากเริ่มตกอ่อยๆกลับหนักขึ้นเรื่อยๆ ลมแรงพัดต้นไม้ริมทางโอนเอนจนเห็นได้ชัด ฟ้าร้องเสียงดังลั่น ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์แทรกเข้ามา

" สวัสดีครับ "

" หญิงเองพี่ "

" เจอแล้ว..เจอแล้ว..หาเจอแล้ว "

          แล้วเธอก็พูดซะยาวเหยียดชนิดที่ว่าจะหาจังหวะแทรกแทบไม่ได้เลย เจอแล้วพี่ หาศพเจอแล้ว เพื่อนโทรมาบอกว่าหาศพเจอแถวๆหน้าวัดเหมือนที่พี่บอกไว้เป๊ะเลย

" อะไรจะแม่นขนาดนั้น เหมือนตาเห็นเลยพี่ "

          ผมลองมาคิดทบทวนดู ถ้าเมื่อวานผมรีบมารับโทรศัพท์เร็วกว่านี้ หรือถ้ามารับช้ากว่านี้จะเป็นยังไงนะ เพราะเวลาที่ใช้ในการทำนายก็จะไม่ตรงกับเรื่องราวเหล่านี้ และก็ทำไมผมถึงต้องมารับโทรศัพท์มารับรู้เรื่องราวในช่วงเวลานั้น บางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้

อย่างนี้รึเปล่าที่เขาเรียกกันว่า " ดวง "